รางวัลรองชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษา

การประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 44/2560

 

รายงานโดย… นายกังวาน
บทสัมภาษณ์คนเก่ง
สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิก Anone club และผู้สนใจภาษาญี่ปุ่นทุกท่าน เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวฝนตก อย่างไรแล้วระวังสุขภาพกันด้วยนะครับ พยายามหมั่นหาเวลาว่างออกกำลังกาย เขาบอกว่าแค่ขยับตัวสักนิดก็ถือว่าเป็นการออกกำลังกายเช่นกันนะครับ ถ้าป่วยแล้วไม่สนุกเลย เชื่อนายกังวานเถอะ ขอให้ทุกท่านสุขภาพดีกันถ้วนหน้าครับ เอาละครับนอกเรื่องไปพอควร กลับมาเรื่องของเราดีกว่า หน้าที่เราคือพามารู้จักน้องคนเก่งอีกคนที่ได้รางวัลในปีนี้ครับ น้องคนเก่งคนนี้เขาจะมีข้อคิดดีๆ หรือคำแนะนำอะไรมาฝากเราบ้าง เส้นทางที่เป็นของตนเองเป็นอย่างไร เราไปพูดคุยกับน้องคนเก่งของเรากันนะครับ พร้อมแล้วก็ลุยเลย

นายกังวาน : นายกังวาน: konnichiwa!สวัสดีครับ น้องนีร ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ
น้องนีร : สวัสดีค่ะ ขอบคุณค่ะ
นายกังวาน : ช่วยแนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักหน่อยครับ
น้องนีร : สวัสดีค่ะชื่อ นางสาวณัฐนิช ผลเพิ่มพูนทวี ชื่อเล่นชื่อ นีร ค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วิชาเอกภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม)
นายกังวาน : เริ่มสนใจภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ อย่างไรครับ
น้องนีร : ที่เลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นเนื่องจากว่า เมื่อตอนมัธยมต้น เป็นคนที่ไม่มีวิชาที่ถนัดเลย แต่พอได้ดูสื่อต่างๆ ของญี่ปุ่น อย่างเช่น หนัง ซีรีย์ อนิเมะ และเพลง ก็ทำให้รู้สึกชอบภาษาญี่ปุ่นขึ้นมา และเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตอน ม.3 หลังจากนั้นก็เลือกเข้ามาเรียนวิชาเอกภาษาญี่ปุ่น การได้เรียนวิชาที่ชอบเป็นวิชาหลักเป็นสิ่งที่ทำให้การเรียนสนุกขึ้นมากๆ เนื่องจากมีวิชาที่เราอยากเรียนอยู่ในตารางเรียนด้วย ทำให้ทั้งเกรดทั้งคะแนนดีขึ้นกว่าตอนมัธยมต้นมาก
นายกังวาน : สุดยอดครับ เริ่มเรียนตั้งแต่เด็กๆ เลยนะ แล้วมีคำแนะนำในการเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างไรให้ประสบความสำเร็จอย่างน้องครับ
น้องนีร : ตอนนี้ก็ยังเด็กอยู่นะคะพี่… ในเรื่องวิธีการเรียนภาษาญี่ปุ่น ส่วนใหญ่เวลาดูหนังจะฟังที่พูดมากกว่าอ่านซับไทยค่ะ เลยทำให้ได้ในด้านการฟัง แต่คิดว่าส่วนใหญ่มาจากการฟังเพลงญี่ปุ่นค่ะ เพราะว่าเวลาฟังจะอ่านเนื้อเพลง อ่านคำแปล แล้วก็ฟังซ้ำเรื่อยๆ ค่ะ จะทำให้รู้ทั้งไวยากรณ์ ทั้งคำศัพท์เพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่คนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นจากสื่อต่างๆ แบบนี้จะทำให้ถนัดด้านการฟัง คนที่สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นถ้าหากเป็นคนที่มีความสนใจอยู่แล้วคิดว่าการเรียนภาษาญี่ปุ่นไม่ยากเลยค่ะ เริ่มจากดูสื่อต่างๆ เหมือนที่บอกข้างบนก็จะทำให้ทักษะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงภาษาญี่ปุ่นจะดูยาก แต่ถ้าเราเริ่มจากการให้ภาษาญี่ปุ่นเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันเรา ก็จะทำให้ทั้งเรียนสนุก ทั้งเรียนได้ไวค่ะ
นายกังวาน : อุต๊ะ! เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบเลยทำให้ของยากดูง่ายและสนุก เอ…แล้วใครเป็นผู้ชักนำเข้าสู่วงการ เอ้ย! ประกวดสุนทรพจน์ในปีนี้ครับ
นายนีร : สาเหตุที่ได้มาประกวดสุนทรพจน์ในปีนี้ เพราะว่าตอนนี้อยู่ ม.6 แล้ว ซึ่งที่ผ่านๆ มาไม่เคยแข่งขันอะไรที่เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นเลยค่ะ เลยคิดว่าในปีนี้แหละจะทำให้ได้ จะเขียนเรื่องให้ดี เพื่อที่จะได้ไปพูดสุนทรพจน์ในงานให้ได้ค่ะ พอได้รับโทรศัพท์จากทางสมาคมฯ ก็ตกใจและดีใจมากๆ เลยค่ะ พอวันจริงก็ยิ่งตื่นเต้นเข้าไปใหญ่เลย ทุกๆ ครั้งที่ก้าวขึ้นไปอยู่บนเวทีจะขาสั่นมากค่ะ ยิ่งตอนประกาศรางวัลนี่แทบหายใจไม่ออกเลย แต่ดีใจมากๆ ค่ะที่ได้รางวัลรองชนะเลิศ ก็อยากให้ทุกๆ คนลองดูสักครั้งนะคะ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากจริงๆ ค่ะ
นายกังวาน :   wakarimashita! เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณนะครับ สุดท้ายนี้มีอะไรจะฝากถึงเพื่อนๆ ไหมครับ
น้องนีร : ขอขอบคุณทุกกำลังใจและทุกท่านที่มีส่วนรวมทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้นะคะ อย่างไรแล้วขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนประสบความสำเร็จนะคะ สุดท้ายนี้ อยากจะบอกทุกท่านว่า การที่เราได้ทำสิ่งที่เราชอบ จะสามารถทำให้เราทำมันออกมาได้ดีที่สุดค่ะ
นายกังวาน :   ขอบคุณน้องนีรมากครับที่ให้ข้อคิดที่ดีและหวังว่าเพื่อนๆ จะนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับตนเองนะครับ ทำในสิ่งที่ชอบจะทำให้เราทำสิ่งนั้นได้ดีแน่นอนครับ อย่างน้อยน้องนีรก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ ขอบคุณครับ
น้องนีร :   ยินดีและเต็มใจค่ะ ขอบคุณและสวัสดีค่ะ

 

自分自身の道
ナッタニット・ポルポムプーンタウィー
両親(りょうしん)は自分(じぶん)の子供(こども)に安定(あんてい)した職(しょく)や家族(かぞく)に恵(めぐ)まれてほしいと思(おも)っています。私(わたし)はタイという国(くに)に生(う)まれました。ここは誰(だれ)もが理系(りけい)を専門(せんもん)にするとお利口(りこう)だと信(しん)じられている国(くに)です。
理系(りけい)が利口(りこう)。 医者(いしゃ)になると利口(りこう)。ですから医者(いしゃ)にならなければいけません。そう信(しん)じている両親(りょうしん)が まだたくさんいます。もし、今(いま)の子供(こども)がみんな 両親(りょうしん)の期待(きたい)のとおり、医者(いしゃ)になったら、この国(くに)は どうなるのでしょうか? 他(ほか)の職業(しょくぎょう)は必要(ひつよう)ないのでしょうか?
私(わたし)の親族(しんぞく)も前(まえ)はそう信(しん)じていました。訪問(ほうもん)のとき、いつも「何(なに)を勉強(べんきょう)しているの?」 と聞(き)かれました。そして、「日本語(にほんご)を勉強(べんきょう)しています。」と答(こた)えたら、すぐ 「え!どうして 理系(りけい)に入(はい)らないの?」とおどろかれました。
私(わたし)はその誤信(ごしん)を変(か)えたいと思(おも)いました。人(ひと)はそれぞれ、いろんな能力(のうりょく)があると信(しん)じています。理科(りけい)や 数学以外(すうがくいがい)にも 言語(げんご)や 音楽(おんがく)など が とくいな人(ひと)もいます。それが「専門(せんもん)」です。
もし、自分(じぶん)の人生(じんせい)を他人(たにん)が引(ひ)いたのなら、自分自身(じぶんじしん)の意志(いし)が消(き)えてしまうのではないのでしょうか。
私(わたし)がとくいなのは 理科(りか)でも数学(すうがく)でもなく 、日本語(にほんご)です。今(いま)、私(わたし)は日本語(にほんご)を専門(せんもん)に学(まな)ぶ高校三年生(こうこうさんねんせい)です。私(わたし)には描(えが)いている将来(しょうらい)があります。通訳者(つうやくしゃ)として、また翻訳者(ほんやくしゃ)として、日本語(にほんご)に関(かか)わる仕事(しごと)につきたいです。私(わたし)は大好(だいす)きな日本語(にほんご)を勉強(べんきょう)していることに、後悔(こうかい)は全(まった)くありません。
ですから、理科(りか)が苦手(にがて)なのに 理系(りか)に入(はい)る人(ひと)は もう一度(いちど)考(かんが)え直(なお)してほしいです。自分(じぶん)が好(す)きな科目(かもく)があるのなら、それを一所懸命(いっしょけんめい)してください。苦手(にがて)なことを無理(むり)やり勉強(べんきょう)するのはいい選択(せんたく)ではないと思(おも)います。
自分(じぶん)に合(あ)う道(みち)が見(み)つかれば、好(す)きな勉強(べんきょう)がもっと楽(たの)しくなります。
最後(さいご)に、皆(みな)さんに分(わ)かってほしいことは自分自身(じぶんじしん)が本当(ほんとう)に好(す)きなことをするのはその先(さき)の人生(じんせい)を最高(さいこう)にできると 私(わたし)は そう信(しん)じています。

 

เส้นทางที่เป็นของตัวเอง
แปลโดย…ณัฐนิช ผลเพิ่มพูนทวี
พ่อแม่ทุกๆ คนอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดีและมั่นคง ไม่ว่าจะเรื่องการเรียน ครอบครัว หรือการงานก็ตาม ฉันเกิดมาในประเทศไทย ที่ที่ทุกๆ คนคิดว่า การเรียนสายวิทย์ดีกว่าสายอื่นๆ
ยังมีคนที่คิดว่า คนเรียนสายวิทย์คือเด็กเก่ง เด็กที่เป็นหมอคือเด็กเก่ง เลยต้องเป็นหมอเท่านั้น ถ้าเช่นนั้นแล้ว หากว่าเด็กทุกคนกลายเป็นหมอตามที่พ่อแม่คาดหวัง ประเทศแห่งนี้จะเป็นอย่างไรกัน? จะไม่มีอาชีพอื่นๆ เลยอย่างนั้นหรือ?
ครอบครัวของฉันก็เคยมีความเชื่อเช่นนั้น เมื่อถึงวันรวมญาติ ก็มักจะเจอกับคำถามที่ว่า เรียนสายอะไรอยู่หรอ? และพอฉันตอบไปว่า เรียนสายภาษาญี่ปุ่นอยู่ค่ะ ก็จะถามกลับมาว่า อ้าว! ทำไมถึงไม่เรียนสายวิทย์ล่ะ?
ฉันจึงอยากจะเปลี่ยนความคิดพวกนั้นค่ะ ฉันเชื่อว่าคนทุกคนล้วนแต่มีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป อาจจะเป็นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา หรือความสามารถในด้านอื่นๆ นั่นจึงทำให้มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความถนัดเฉพาะทาง’ ขึ้นมา
ถ้าหากให้คนอื่นเป็นคนกำหนดชีวิตของตัวเองแล้วละก็ ทั้งความฝัน ทั้งสิ่งที่ตัวเราตั้งใจอยากจะทำก็คงจะต้องหายไปอย่างแน่นอน
สิ่งที่ฉันถนัด ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่คณิตศาสตร์ แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้ฉันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 วิชาเอกภาษาญี่ปุ่น สำหรับฉันแล้ว ก็มีอนาคตที่วาดฝันเอาไว้เช่นเดียวกัน นั่นคือเป็นล่าม นักแปลภาษา และอยากทำงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาษาญี่ปุ่น เพราะอย่างนั้น ฉันไม่เคยเสียใจเลยแม้แต่สักครั้งเดียว ที่เลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นที่ฉันชอบมา
ดังนั้นคนที่คิดจะเลือกสายวิทย์ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ถนัด ก็อยากให้คิดทบทวนดูอีกรอบ เพราะถ้าหากมีวิชาที่ตัวเองชอบจริงๆ ก็อยากให้ตั้งใจทำสิ่งนั้นให้ถึงที่สุด การฝืนตัวเองไปทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย
ถ้าหากเจอเส้นทางการเรียนที่เหมาะสมกับตัวเอง ได้เรียนสิ่งที่ตัวเองชอบ ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ จะทำให้เราสามารถสนุกกับการเรียนไปได้มากขึ้นค่ะ
สุดท้ายนี้ อยากให้ทุกท่านทราบไว้ว่า การที่เราได้ทำสิ่งที่เราชอบ จะทำให้เราทำมันออกมาได้ดีที่สุดค่ะ

 

Bottom as

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here