Notice: Function _load_textdomain_just_in_time was called incorrectly. Translation loading for the td-cloud-library domain was triggered too early. This is usually an indicator for some code in the plugin or theme running too early. Translations should be loaded at the init action or later. Please see Debugging in WordPress for more information. (This message was added in version 6.7.0.) in /var/www/vhosts/ojsat.or.th/httpdocs/main/wp-includes/functions.php on line 6121
รางวัลรองชนะเลิศ ระดับมหาวิทยาลัยและบุคคลทั่วไป การประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 44/2560 | สมาคมนักเรียนเก่าญี่ปุ่น ในพระบรมราชูปถัมภ์
Friday, April 25, 2025
<
HomeAnoneClubประกวดสุนทรพจน์รางวัลรองชนะเลิศ ระดับมหาวิทยาลัยและบุคคลทั่วไป การประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 44/2560

รางวัลรองชนะเลิศ ระดับมหาวิทยาลัยและบุคคลทั่วไป การประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 44/2560

สัมภาษณ์คนเก่ง น้องชนกนันท์ บุญญาอารยะวงศ์
สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิก Anone club และผู้สนใจภาษาญี่ปุ่นทุกท่าน ครั้งนี้เราจะพาทุกท่านมาพบคนเก่งของเราอีกคนหนึ่ง น้องคนเก่งของเราเป็นสาวเมืองรถม้า อยู่ทางภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย สินค้าที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ก็คือเครื่องปั้นดินเผา ใช่แล้วครับ คนเก่งของเราเป็นสาวเมืองลำปาง หรือเมืองเขลางค์นคร หรือเวียงละกอน ก็เป็นเกร็ดเล็กน้อยที่เสริมเข้ามาเพื่อทำความรู้จักบ้านคนเก่งของเราในวันนี้นะครับ ว่าแต่ว่า คำว่าไม่ลองไม่รู้ที่น้องคนเก่งของเราใช้ในการเข้าประกวดจะเป็นอย่างไร เราลองมาติดตามดูกันนะครับ แต่ก่อนจะนำทุกท่านไปพบกับบทสุนทรพจน์ที่น้องคนเก่งนำเข้าประกวด เราลองมาติดตามและทำความรู้จักน้องให้มากขึ้นผ่านบทสัมภาษณ์สั้นๆ กันดีกว่านะครับ พร้อมแล้ว ตามนายกังวานไปพูดคุยและทำความรู้จักกับน้องคนเก่งคนนี้กันครับ sa ikimasho!
นายกังวาน : moshi moshi ! สวัสดีครับน้องคนเก่ง นายกังวานจาก Anone club ครับ แนะนำตัวครับ
น้องแก้มบุ๋ม : สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวชนกนันท์ บุญญาอารยะวงศ์ค่ะ LineID: nbcloud ชื่อเล่นชื่อแก้มบุ๋มค่ะ

นายกังวาน : สวัสดีครับ ขอทราบว่าน้องแก้มบุ๋มตอนนี้เรียนระดับไหน ที่ใด สาขาใดครับ

น้องแก้มบุ๋ม : ยินดีค่ะ ตอนนี้กำลังศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ค่ะ
นายกังวาน : ทำไมถึงสนใจภาษาญี่ปุ่นครับ ลองเล่าให้เพื่อนฟังได้ไหมครับ
น้องแก้มบุ๋ม: ที่เริ่มศึกษาภาษาญี่ปุ่นเพราะว่า ชื่นชอบตัวอักษรของญี่ปุ่นจึงสอบเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นตอนมัธยมปลาย แต่จบมัธยมปลายก็ไม่ได้เรียนต่อด้านภาษา ทิ้งภาษาไปพักใหญ่ พอหลังจากนั้นก็กลับมาสนใจอีกครั้ง ทั้งด้านภาษา วัฒนธรรม การท่องเที่ยว อาหารของญี่ปุ่น โดยเฉพาะเรื่องงานฝีมือเป็นเรื่องที่สนใจมากค่ะ เมื่อตอนที่ซื้อหนังสืองานฝีมือของญี่ปุ่นมา แล้วอ่านไม่ออก ก็เลยอยากกลับมาเรียนภาษาญี่ปุ่นอีกครั้งค่ะ 🙂
นายกังวาน : สนใจหนังสืองานฝีมือหรือครับ เยี่ยมเลย เป็นจุดสนใจที่ไม่เหมือนใครนะ 555 ว่าแต่มีวิธีเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างไร และเป็นอย่างไรครับ
น้องแก้มบุ๋ม : ในเรื่องของการเรียน การเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับหนูมากค่ะ โดยเฉพาะไวยากรณ์ หนูจึงต้องมีสมุดไว้จดสรุปเนื้อหา ไว้จดคำศัพท์ เอาไว้ท่องอยู่เสมอค่ะ (แต่บางครั้งก็จำไม่ค่อยได้) ส่วนไวยากรณ์ ถ้าไม่เข้าใจก็จะกลับไปถามครูอีกทีค่ะ และบางครั้งก็จะดูรายการญี่ปุ่นเพื่อฝึกพัฒนาทักษะการฟังบ้างค่ะ
นายกังวาน : Nihongo wa muzukashii ne! demo omoshiroi desu. จริงนะครับ แต่มันก็น่าสนใจไม่ใช่หรือว่าใครเป็นผู้แนะนำให้น้องแก้มบุ๋มเข้าประกวดครับ
>น้องแก้มบุ๋ม : การมาประกวดในครั้งนี้ เนื่องจากอาจารย์ชวนค่ะ ก็เลยตัดสินใจลองทำดู เพราะไม่เคยทำมาก่อน ก่อนจะมาประกวดรอบนี้ หนูเคยส่งเรื่องเข้าประกวดรอบภาคเหนือมาก่อนค่ะ แต่ไม่ผ่านเข้ารอบ จึงปรับปรุงเนื้อเรื่องให้ดีขึ้น จนผ่านเข้ารอบดีใจมากค่ะ
นายกังวาน :   wakarimashita! เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณนะครับ สุดท้ายนี้มีอะไรจะฝากถึงเพื่อนๆ ไหมครับ
>น้องแก้มบุ๋ม : ขอขอบคุณทุกกำลังใจและทุกท่านที่มีส่วนรวมทำให้ประสบความสำเร็จในวันนี้นะคะ อย่างไรแล้วขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนประสบความสำเร็จนะคะ สุดท้ายนี้ อยากจะบอกทุกท่านว่า การที่เราได้ทำสิ่งที่เราชอบ จะสามารถทำให้เราทำมันออกมาได้ดีที่สุดค่ะ
นายกังวาน :   เยี่ยมครับ ว่าแต่ทำไมถึงเลือกหัวข้อนี้เข้าประกวดครับ
น้องแก้มบุ๋ม:   หัวข้อเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เอาไว้เตือนสติตัวเองได้ตลอดเลยค่ะ เพราะหนูได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง จากประสบการณ์ที่เคยผิดหวังมามากมายค่ะ มันทำให้เรากล้าที่จะทำในสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริงค่ะ และก็อยากบอกคนอื่นด้วยว่า คนเราต้องมีความพยายามที่จะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรัก เลือกที่จะคุยกับตัวเองว่าลึกๆ แล้วเราต้องการอะไร ไม่อยากให้คนอื่นฝืนอยู่กับสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองค่ะ
นายกังวาน :   เป็นธรรมชาติดีนะครับ การที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารัก เราชอบ ย่อมมีความสุขกับการทำ และจะสามารถทำได้ดีนะครับ พี่ยืนยัน แล้วน้องแก้มบุ๋มคิดว่าสิ่งที่ได้จากการเรียนภาษาญี่ปุ่น เป็นอย่างไรบ้างครับ
น้องแก้มบุ๋ม:   สิ่งที่ได้จากการเรียนภาษาญี่ปุ่นหรือคะ การเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากและลึกซึ้ง ถ้าเราไม่พยายาม ไม่หมั่นฝึกฝนเราก็จะไม่เข้าใจค่ะ เพราะฉะนั้น การเรียนภาษาญี่ปุ่นสอนให้หนูพยายามค่ะ เพราะหนูเป็นคนไม่เก่ง พอเราเห็นคนเก่งๆ เขาพูดคล่อง เขาจำศัพท์ได้ดี เขาอธิบายไวยากรณ์ให้เราฟังได้อย่างเข้าใจ เราก็อยากทำได้อย่างเขา ก็เลยต้องพยายามมากๆ ค่ะ
นายกังวาน :   เป็นวิธีการกระตุ้นให้เราสู้ และพยายามต่อไปนะครับ เป็นแนวคิดที่ดีเลยครับ สุดท้ายนี้มีอะไรที่จะฝากเพื่อนๆ ไหมครับ
น้องแก้มบุ๋ม:   อยากให้ผู้ที่กำลังสนใจที่คิดอยากจะประกวดสุนทรพจน์ค่ะ ว่ามันไม่ยากอย่างที่เราคิดค่ะ เพียงแค่เราตั้งใจ และทำด้วยใจจริงๆ สุนทรพจน์ก็เหมือนการบอกเล่าเรื่องบางอย่าง แค่พูดออกมาจากใจ ยังไงคนก็ฟังเราค่ะ ขอบคุณค่ะ
นายกังวาน :   ขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีนะครับ หวังว่าเพื่อนๆ ที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์แล้ว จะได้มีกำลังใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่น และลองนำเทคนิคดีๆ ไปปรับใช้ให้เหมาะกับตนเองตามอัธยาศัยนะครับ ไม่แน่นะ น้องอาจเป็นคนเก่งในอนาคตที่นายกังวานจะตามไปสัมภาษณ์และนำมาเผยแพร่เช่นน้องคนเก่งสำหรับวันนี้นะครับ อย่างไรแล้วต้องขอขอบคุณน้องแก้มที่สละเวลาอันมีค่ามาพูดคุยและให้คำแนะนำแก่เพื่อนๆ นะครับ ลองอ่านดูครับว่า ไม่ลองไม่รู้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร ถ้าไม่ลองแล้วจะไม่รู้ที่น้องแก้มบุ๋มนำเสนอจะเป็นอะไร แล้วติดตามนายกังวานในครั้งต่อไปนะครับ ขอบคุณและสวัสดีครับ ganbatte ne !

div>น้องแก้มบุ๋ม:   ขอบคุณและสวัสดีค่ะ

…………………………………………………………………………………………………………………
3度目(さんどめ)の正直(しょうじき)
チャノックナン・ブンヤーアーラヤウォン
もし、今(いま)勉強(べんきょう)していることが自分(じぶん)らしくないとわかったら、どうしますか。1、せっかく投資(とうし)した時間(じかん)やお金(かね)がもったいないので続(つづ)ける。2、素直(すなお)に自分(じぶん)の気持(きも)ちをみとめて、人生(じんせい)をやり直(なお)す。みなさんは、どちらのタイプですか。
多(おお)くの人(ひと)は普通(ふつう)、大学(だいがく)一年生(いちねんせい)は一度(いちど)しか経験(けいけん)しないでしょう。でも、私(わたし)は、高校時代(こうこうじだい)の同級生(どうきゅうせい)が大学(だいがく)を卒業(そつぎょう)した年(とし)に3回目(さんかいめ)の入学(にゅうがく)をしました。つまり、大学(だいがく)を2回(にかい)も辞(や)めているのです。一回目(いっかいめ)は、浮世絵(うきよえ)が好(す)きで、チェンマイ大学(だいがく)美術学部(びじゅつがくぶ)に進学(しんがく)しました。でも、ここで、自分(じぶん)には美術(びじゅつ)の才能(さいのう)はなく、ただ好(す)きなだけで、自分(じぶん)の能力(のうりょく)は美術家(びじゅつか)として稼(かせ)げるレベルではないと実感(じっかん)しました。それに、当時(とうじ)、父(ちち)が仕事(しごと)を失(うしな)ったこともあり、4年間(よねんかん)の大学(だいがく)を辞(や)めて、2年間(にねんかん)の短期大学(たんきだいがく)に通(かよ)った方(ほう)がいいと判断(はんだん)しました。
そして次(つぎ)は、将来(しょうらい)絶対(ぜったい)に役(やく)に立(た)つであろうことを選択(せんたく)しました。それは、調理師(ちょうりし)のコースでした。今回(こんかい)は家族(かぞく)のため、好(す)きでもきらいでもなく、将来(しょうらい)、絶対(ぜったい)仕事(しごと)があることを選(えら)びました。最初(さいしょ)は、調理実習(ちょうりじっしゅう)がメインだと思(おも)い、期待(きたい)していましたが、実際(じっさい)は、料理(りょうり)の理論(りろん)の授業(じゅぎょう)ばかりでした。このままでは絶対(ぜったい)に上手(じょうず)にならないと思(おも)いました。でも、今回(こんかい)は簡単(かんたん)に辞(や)めるわけにはいかないし、負(ま)け犬(いぬ)だと思(おも)われたくないと思(おも)い、もう一度(いちど)勉強(べんきょう)にぶつかってみました。一学期(いちがっき)の成績(せいせき)はクラスで一番(いちばん)でした。でも、なんだか、あまりうれしくなかったです。そのことを父(ちち)に話(はな)したら、それは、自分(じぶん)らしくないことやってるからじゃない?と言(い)われました。そうかもしれないと目(め)が覚(さ)めました。
そして私(わたし)は、日本語(にほんご)を専攻(せんこう)していた高校時代(こうこうじだい)、毎日(まいにち)の勉強(べんきょう)が楽(たの)しくてしょうがなかったことを思(おも)い出(だ)しました。大好(だいす)きな日本語(にほんご)の先生(せんせい)が学校(がっこう)を辞(や)めたことで、日本語(にほんご)への興味(きょうみ)を失(うしな)っていましたが、「調理師(ちょうりし)の勉強(べんきょう)は自分(じぶん)に向(む)いていないし、このままだと、将来(しょうらい)役(やく)に立(た)たないし、時間(じかん)を無駄(むだ)にするだけ。日本語(にほんご)をもう一度(いちど)勉強(べんきょう)しよう」と決(き)めました。そこで、22歳(にじゅうにさい)でチェンマイラチャパット大学(だいがく)の日本語学科(にほんごがっか)に入学(にゅうがく)して、人生(じんせい)をやり直(なお)しました。今(いま)、私(わたし)は日本語(にほんご)を勉強(べんきょう)して、わからない文法(ぶんぽう)や漢字(かんじ)を調(しら)べるのが大変(たいへん)楽(たの)しいです。わからないことがわかるようになったのはうれしくて、毎日(まいにち)イキイキしています。それは、今(いま)勉強(べんきょう)していることは自分(じぶん)らしいからです。自分(じぶん)が選(えら)んだ道(みち)は2回(にかい)も失敗(しっぱい)しましたが、3回目(さんかいめ)こそやっと自分(じぶん)と合(あ)うものがみつかりました。今(いま)私(わたし)がここでスピーチしているのも、勇気(ゆうき)を出(だ)してチャレンジし続(つづ)けているからこそです。
「人生(じんせい)をやり直(なお)したいけど、時間(じかん)がもったいない。新(あたら)しいことにチャレンジするのが怖(こわ)い。周(まわ)りの視線(しせん)が気(き)になって勇気(ゆうき)がない。」と考(かんが)える人(ひと)もいるでしょう。しかし、人生(じんせい)はそんなに長(なが)くはありません。好(す)きでもないことに時間(じかん)をかけられるなら、その時間(じかん)を自分(じぶん)が向(む)いていることを探(さが)すのに使(つか)ってみたらどうでしょうか。人生(じんせい)は何度(なんど)でもやり直(なお)すことができます。本当(ほんとう)の自分(じぶん)の道(みち)を見(み)つけて、歩(あゆ)んでいくことが人間(にんげん)らしいと私(わたし)は、思(おも)います。
日本(にほん)には「3度目(さんども)の正直(しょうじき)」ということわざがあります。私(わたし)の人生(じんせい)を振(ふ)り返(かえ)るとそうだと思(おも)います。3回(さんかい)までやってみないと結果(けっか)がわからないこともあります。みなさん3回(さんかい)までやってみませんか。
ไม่ลองไม่รู้
นางสาวชนกนันท์ บุญญาอารยะวงศ์/span>
คุณจะทำอย่างไรคะ ถ้าสิ่งที่คุณกำลังเรียนอยู่ตอนนี้ไม่ใช่สิ่งที่คุณต้องการ 1. ทนเรียนต่อไป เพราะว่าเสียดายที่อุตส่าห์ลงทุนทั้งเงินและเวลา 2. เชื่อมั่นในความรู้สึกของตัวเองและเริ่มต้นชีวิตใหม่ ถ้าเป็นคุณ จะเลือกทางเดินแบบไหนกันคะ
ชีวิตปกติของคนทั่วไปมักจะมีประสบการณ์การเป็นนักศึกษาปี 1 เพียงแค่ครั้งเดียว แต่สำหรับฉัน เมื่อเพื่อนสมัยมัธยมปลายเรียนจบมหาวิทยาลัยในขณะที่ฉันกำลังเข้าเรียนปี 1 ครั้งที่ 3 กล่าวคือ ฉันลาออกจากมหาวิทยาลัยถึง 2 ครั้ง ครั้งแรก ฉันเข้าศึกษาต่อที่คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะว่าชอบภาพพิมพ์ของญี่ปุ่นที่เรียกว่า อุคิโยเอะ แต่ว่า ถึงแม้ว่าจะชอบวาดรูป แต่ฉันกลับไม่มีพรสวรรค์ด้านศิลปะ และฉันก็รู้ตัวว่า ความสามารถของฉันไม่ใช่ระดับที่สามารถจะทำงานหาเลี้ยงครอบครัวในฐานะศิลปินได้ อีกทั้งในตอนนั้นพ่อก็ลาออกจากงานที่ทำอยู่ด้วย จึงตัดสินใจว่า ควรจะเลิกเรียนมหาวิทยาลัยที่เรียน 4 ปี แล้วหันมาเรียนมหาวิทยาลัยระยะสั้นที่เรียน 2 ปีจะดีกว่า
ต่อมา จึงคิดว่าจะเลือกเรียนในสิ่งที่นำไปประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงในอนาคต ตัดสินใจเลือกเรียนด้านอาหาร เพราะคิดว่าทำเพื่อครอบครัว เพื่ออนาคต โดยไม่เกี่ยวกับความชอบไม่ชอบ ช่วงแรก คาดหวังว่าจะเป็นคาบเรียนที่ได้เรียนทำอาหารเป็นหลัก แต่กลับเป็นการเรียนแต่ทฤษฎีไม่ค่อยได้ปฏิบัติ จึงคิดว่า ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป คงจะไม่สามารถทำอาหารเก่งขึ้น แต่ครั้งนี้เลิกล้มไม่ได้ง่ายๆ อาจจะโดนคนอื่นหาว่าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ จึงมุ่งหน้าตั้งใจเรียนต่ออีกครั้ง แต่ถึงแม้ว่าผลการเรียนจะได้เป็นอันดับ 1 กลับไม่ค่อยดีใจซักเท่าไหร่ พอได้ปรึกษาพ่อ พ่อบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่ ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองอยากทำจริงๆ ใช่ไหม พอได้ยินแบบนั้น เลยคิดได้
ฉันนึกถึงเรื่องในตอนที่เรียนศิลป์ภาษาญี่ปุ่นตอนมัธยมปลาย ทุกวันที่ไปเรียน ฉันมีความสุขมาก แต่พอคุณครูสอนภาษาญี่ปุ่นที่ฉันรักลาออกไป จึงทำให้ความสนใจในภาษาญี่ปุ่นน้อยลง แต่การมุ่งหน้าเรียนทำอาหารต่อไป อาจทำให้ฉันหยุดอยู่กับที่ และทำให้เสียเวลา จึงตัดสินใจ กลับมาเรียนภาษาญี่ปุ่นอีกครั้ง ตอนนั้น ฉันเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยการเข้าศึกษาในสาขาภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ตอนฉันอายุ 22 ปี สำหรับฉันในตอนนี้ การที่ได้ตรวจเช็คไวยากรณ์หรือได้ค้นหาคันจิที่ไม่เข้าใจ เป็นเรื่องที่สนุกมากในการเรียนภาษาญี่ปุ่น พอได้เรียนรู้ในเรื่องที่ไม่เคยรู้ เป็นเรื่องที่น่าดีใจ ทุกวันฉันมีความสุขมาก ดังนั้น สิ่งที่เรียนอยู่ในตอนนี้เป็นสิ่งที่ฉันต้องการ คนเราสามารถเลือกหนทางที่ผิดหวังได้ 2 ครั้ง แต่เราจะหาหนทางที่ดีที่สุดพบในครั้งที่ 3 ดั่งตัวฉันในตอนนี้ที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์อยู่ เป็นสิ่งที่กำลังท้าทายความกล้าของฉัน
หลายคนคิดว่าการเริ่มต้นใหม่เป็นเรื่องเสียเวลา การท้าทายอะไรใหม่ๆ เป็นเรื่องน่ากลัว ไม่กล้าทำเพราะเกรงสายตาคนรอบข้าง แต่ชีวิตคนเราไม่ได้มีเวลานานขนาดนั้น เรายังเสียเวลาให้กับสิ่งที่ไม่ชอบได้ แล้วทำไมเราจะเสียเวลาตามหาสิ่งที่เราอาจจะชอบไม่ได้ล่ะคะ ถ้าอย่างนั้น จะดูเหมือนว่าเราได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่เสียมากกว่า จงหาหนทางที่แท้จริงของตัวเอง และมุ่งหน้าเดินก้าวไปอย่างเป็นมนุษย์ ฉันคิดอย่างนั้น
ที่ญี่ปุ่น มีสุภาษิตที่ว่า 「3度目の正直」ทำให้นึกถึงตัวฉัน ที่พยายามถึง 3 ครั้ง จนเกิดผล แล้วทุกท่านล่ะคะ ไม่ลองมาพยายามจนถึง 3 ครั้งดูล่ะคะ
——————————————–
RELATED ARTICLES

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here

- Advertisment -

Most Popular

Recent Comments