รางวัลชนะเลิศ ระดับมัธยมศึกษา
การประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่น ครั้งที่ 44/2560
โดย นายกังวาน
สวัสดีครับ เพื่อนสมาชิก Anone Club และผู้สนใจภาษาญี่ปุ่นทุกท่าน กลับมาพบกับท่านตามคำเรียกร้องอีกเช่นเคย เมื่อเราได้เจอกันแม้จะเป็นปีละครั้ง ซึ่งอาจจะดูน้อย แต่อย่างน้อยเราจะได้พบกับคนเก่งคนใหม่ของเราทุกปี ทำให้เห็นพัฒนาการของการเรียนภาษาญี่ปุ่นในบ้านเราที่มีการพัฒนาต่อเนื่อง วันนี้เราจะนำท่านไปพบกับน้องคนเก่งของเราอีกคน เธอกำลังศึกษาอยู่โรงเรียนวังไกลกังวล โรงเรียนเอกชนซึ่งถือกำเนิดด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล หรือรัชกาลที่ 8 โดยเปิดทำการสอนเมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๘๑ ตามเราไปพูดคุยกับน้องคนเก่งผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับมัธยมศึกษาผ่านบทสัมภาษณ์กันครับ พร้อมแล้ว さあ、行きましょう!

นายกังวาน: สวัสดีครับ ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ แนะนำตัวให้เพื่อนๆ รู้จักกันหน่อยครับ

น้องเกรฟ : สวัสดีค่ะ ชื่อนางสาวเพ็ญธนาลัย นาใต้ ชื่อเล่นว่า ‘เกรฟ’ ปัจจุบันศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สายศิลป์ภาษาญี่ปุ่น โรงเรียนวังไกลกังวล

นายกังวาน: น้องเกรฟ สนใจและเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ

น้องเกรฟ : ตั้งใจจะเข้าศิลป์ภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ประถมแล้วค่ะ เพราะชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นมาตั้งแต่ขึ้นประถมใหม่ๆ เลยก็ว่าได้ ตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมต้นก็สนใจศึกษาเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นมาตลอด จนกระทั่งขึ้น ม.4 ก็เลือกเข้าศิลป์ญี่ปุ่นอย่างไม่ลังเลเลยค่ะ

นายกังวาน: การเรียนภาษาญี่ปุ่นของน้องเกรฟมีปัญหาหรืออุปสรรคในการเรียนบ้างหรือไม่ครับ

น้องเกรฟ : . สนใจและชื่นชอบภาษาญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้เรียนวิชาภาษาญี่ปุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา แม้ระดับจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็ไม่เคยมองว่ายากเลยค่ะ ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน นอกเวลาเรียนเองก็ยังคอยศึกษาภาษาญี่ปุ่นด้วยเหมือนกันค่ะ ฉันมักจะติดตามและร่วมพูดคุยแสดงความคิดเห็นกับคนญี่ปุ่นเช่นในทวิตเตอร์หรือเฟสบุ๊ค และอัพพวกงานวาดในเว็บไซต์ชื่อดังของญี่ปุ่นซึ่งจะใช้ภาษาญี่ปุ่นล้วน เป็นการเรียนรู้ที่ดีอย่างหนึ่งเลยละค่ะ นอกจากนี้เวลาจะดูอนิเมะ ฉันมักจะรอดูผ่านการถ่ายทอดสดในวันที่เรื่องนั้นๆ ฉาย ซึ่งจะไม่มีซับภาษาไทยค่ะ ได้ทั้งเรียนรู้สำเนียงการพูด คำศัพท์ รูปประโยคและไวยากรณ์ใหม่ๆ สามารถนำไปศึกษาต่อยอดด้วยตัวเองได้มากมาย เป็นเหมือนคาบเรียนขนาดย่อมประจำสัปดาห์เลยค่ะ

นายกังวาน: 面白いね!น่าสนใจนะครับ เป็นวิธีการเรียนที่เกิดจากใจรักอย่างแท้จริงเลย ทำให้การเรียน ถึงแม้จะดูมีอุปสรรคที่ยากกลับง่ายและสนุกสนานกับการเรียนที่ไม่น่าเบื่อเลย น้องเกรฟพอจะมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นบ้างไหมครับ

น้องเกรฟ :สำหรับผู้ที่กำลังสนใจในภาษาญี่ปุ่น ฉันอยากแนะนำว่าภาษาญี่ปุ่นน่ะ อาจจะดูยากและซับซ้อนก็จริง แต่ถ้าตั้งใจเรียนจริงไม่ว่าใครก็ทำได้ค่ะ ทุกคนก็เริ่มจาก 0 กันทั้งนั้น ต้องเรียนรู้อย่างค่อยเป็นค่อยไป อย่ากดดันตัวเองหรืออัดความรู้มากจนเกินไป และไม่ควรทิ้งความรู้ที่ศึกษามาด้วยค่ะ นำมาใช้บ่อยๆ จะทำให้ไม่ลืม การเขียนและออกเสียงจะช่วยให้จำได้ดีขึ้นค่ะ ใครที่กำลังเริ่มศึกษาหรือเรียนอยู่ก็พยายามเข้านะคะ

นายกังวาน: มีสิ่งใดที่จุดประกายให้น้องเกรฟ อยากศึกษาภาษาญี่ปุ่นบ้างครับ

น้องเกรฟ : สิ่งที่จุดประกายให้อยากศึกษาภาษาญี่ปุ่นเริ่มจากการวาดรูปค่ะ อาจสงสัยว่าการวาดรูปกับภาษาญี่ปุ่นมันเกี่ยวกันยังไง นั่นเป็นเพราะอนาคตฝันว่าอยากเข้าทำงานด้านวาดภาพกับญี่ปุ่นนั่นเองค่ะ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านอนิเมะ มังหงะ และลายเส้นอันเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามจนติดตาไปทั่วโลก ใช่ไหมละคะ เพราะฉะนั้นภาษาญี่ปุ่นจึงจำเป็นอย่างมากสำหรับอาชีพที่ใฝ่ฝันในอนาคตค่ะ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในบทสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ประกวดด้วยเช่นกัน

น้องเกรฟ : ยินดีและเต็มใจค่ะ สำหรับการประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นครั้งที่ 44 นี้ ทั้งดีใจทั้งประหลาดใจเลยละค่ะ หลังจากได้ฟังทุกคนพูดจบแล้วไม่คิดเลยว่าตัวเองจะชนะ เพราะทุกคนก็เก่งกันทั้งนั้น ตอนนั้นฉันเหลือบไปเห็นพวกคุณครูดีใจกันยิ่งกว่าฉันเสียอีก คุณครูชาวญี่ปุ่นที่คอยฝึกสอนและซ้อมให้ฉันมาจนถึงวันนี้ท่านดีใจจนซับน้ำตา นั่นเป็นภาพที่ทำให้ฉันดีใจที่สุดเลยค่ะ เพราะนี่เป็นปีสุดท้ายแล้วที่ท่านจะอยู่กับพวกเรา ฉันหวังว่าจะตอบแทนท่านได้ด้วยสิ่งนี้ ขอบคุณคุณครู เพื่อนๆ และครอบครัวที่คอยสนับสนุนและเป็นกำลังใจมาตลอดด้วยค่ะ

นายกังวาน: น้องเกรฟมีการใช้งานในโลกโซเชียล บ้างไหมครับ

น้องเกรฟ : มีค่ะ สามารถเข้ามาเป็นเพื่อนได้หลายช่องทางเลยนะ ตามนี้เลยค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่านค่ะ Facebok : Kami Mochi’Pasta Twitter : @ciaociaovita Instagram : ciaovita_kami Pixiv ID : 9744522 และ Deviantart : CiaoCiaoVita

เป็นอย่างไรบ้างครับ เพื่อนๆ ที่ได้อ่านบทสัมภาษณ์น้องคนเก่งแล้ว ทำให้เราได้ไอเดียและแนวทางว่าจะเรียนภาษาญี่ปุ่นกันอย่างไรให้สนุกสนาน และประสบความสำเร็จในการเรียนเหมือนน้องเกรฟนะครับ พี่หวังว่าคำแนะนำที่ได้รับจะเป็นประโยชน์สำหรับน้องๆ หรือผู้สนใจภาษาญี่ปุ่นทุกท่านนะครับ เชื่อเถอะครับว่า ไม่มีอะไรที่เกินความสามารถของเราไปได้แน่นอน ขอให้สนุกกับการเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นนะครับ แล้วพบกันใหม่กับน้องคนเก่งของเราคนต่อไป ขอบคุณครับ

 

「不死(ふし)」を信(しん)じますか?
ペンタナライ・ナータイ

「死(し)にたくない!」と思(おも)ったことはありますか。あなたが明日(あした)の朝(あさ)、目(め)がさめなかったら、今日(きょう)までの人生(じんせい)はいい人生(じんせい)でしたか。私達(わたしたち)は必(かなら)ず死(し)にます。十年後(じゅうねんご)かもしれないし、今(いま)かもしれません。きっと、皆(みな)さんやりたいことがたくさんあるし、幸(しあわ)せになりたいですよね。私(わたし)も勉強(べんきょう)や仕事(しごと)を一生懸命(いっしょうけんめい)していい結果(けっか)を残(のこ)したいと思(おも)っています。でも、人生(じんせい)の時間(じかん)が誰(だれ)にもわかりません。長(なが)い人(ひと)もいるし、短(みじか)い人(ひと)もいます。もし、ふしぎな薬(くすり)や魔法(まほう)の力(ちから)があれば、死(し)なない体(からだ)になって、ずっと生(い)きることができるかもしれませんが、そんなものはもちろんありませんよね。でも、私(わたし)は不死(ふし)を信(しん)じています。

皆(みな)さんはどんな時(とき)に人(ひと)は死(し)ぬと思(おも)いますか。私(わたし)は心臓(しんぞう)が止(と)まった時(とき)ではなく、他(ほか)の人(ひと)の心(こころ)から消(き)えてしまった時(とき)だと思(おも)っています。

ある日(ひ)、悲(かな)しいことがありました。私(わたし)の大好(だいす)きな日本人(にほんじん)の漫画家(まんがか)が、病気(びょうき)で亡(な)くなったんです。三十一才(さんじゅういっさい)でした。その人(ひと)の漫画(まんが)はアニメにもなって、いつも私(わたし)を楽(たの)しい気持(きも)ちにさせてくれました。悲(かな)しいですが、もう、二度(にど)と新(あたら)しいストリーを読(よ)むことはできません。でも、その人(ひと)が与(あた)えた影響(えいきょう)はこれからも心(こころ)の中(なか)にずっと残(のこ)ります。私(わたし)はその人(ひと)のことを絶対(ぜったい)に忘(わす)れません。これは「不死(ふし)」ではないでしょうか。

私(わたし)は将来(しょうらい)漫画家(まんがか)になりたいという夢(ゆめ)があります。本(ほん)をたくさん読(よ)んだり、自分(じぶん)でイラストを描(か)いたりしています。私(わたし)は漫画(まんが)からたくさんの気持(きも)ちをもらいました。だから、私(わたし)も漫画家(まんがか)になって、読(よ)む人(ひと)にいろいろな気持(きも)ちをあげたいと考(かんが)えています。

私(わたし)の体(からだ)にはタイムリミットがありますが、誰(だれ)かの心(こころ)の中(なか)に、いつまでもきらきら生(い)き続(つづ)ける人(ひと)になりたいです。

 

เรื่องเล่าภาษาญี่ปุ่นของฉัน
แปลโดย เพ็ญธนาลัย นาใต้

เคยคิดว่า “ไม่อยากตาย!” บ้างหรือเปล่าคะ หากว่าพรุ่งนี้เช้าคุณไม่ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกละก็ ชีวิตจนถึงวันนี้เป็นชีวิตที่ดีแล้วหรือยังคะ
พวกเราไม่ว่ายังไงก็ต้องตาย อาจจะอีกสิบปี หรือตอนนี้เลย ไม่อาจทราบได้ แน่นอนว่าทุกๆ คนมีเรื่องอยากทำมากมาย แล้วก็อยากมีความสุขสินะคะ ฉันเองก็จะพยายามเต็มที่ในเรื่องการเรียน การงาน และคิดว่าอยากจะทิ้งผลลัพธ์ดีๆ เอาไว้ค่ะ แต่ว่า…ไม่มีใครที่จะรู้เวลาของชีวิตหรอกค่ะ คนที่มีชีวิตยืนยาวก็มี คนที่มีชีวิตสั้นก็มีเช่นกัน ถ้าหากมียาวิเศษหรือพลังเวทมนต์ละก็ อาจจะมีร่างกายที่ไม่มีวันตายแล้วมีชีวิตอยู่ตลอดไปก็ได้ แต่ของแบบนั้น แน่นอนว่าไม่มีใช่ไหมละคะ …แต่ว่า ฉันน่ะเชื่อใน “ชีวิตอมตะ” ค่ะ

ทุกคนคิดว่าคนเราจะตายตอนไหนคะ? ฉันคิดว่า ไม่ใช่ตอนที่หัวใจหยุดเต้น แต่เป็นตอนที่หายไปจากใจของคนอื่นๆ ต่างหาก

 

วันหนึ่ง… มีเรื่องน่าเศร้าใจเกิดขึ้นค่ะ นักวาดการ์ตูนที่ฉันชื่นชอบมากๆ ล้มป่วยและเสียชีวิตลงในวัย 31 ปีค่ะ… หนังสือการ์ตูนของคนคนนั้นได้สร้างเป็นอนิเมะ และมอบความสนุกสนานให้ฉันเสมอ แต่แม้จะเศร้าใจแค่ไหน ก็ไม่อาจอ่านเรื่องราวใหม่ๆ ได้อีกแล้วค่ะ…

แต่ว่า อิทธิพลที่ได้รับจากคนคนนั้น จากนี้ไปก็จะยังคงประทับในใจเสมอ ฉันจะไม่มีวันลืมเรื่องราวของคนคนนั้นเลยค่ะ นี่แหละคือ.. “ชีวิตอมตะ” ไม่ใช่เหรอคะ

ในอนาคต ฉันฝันอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนค่ะ ทั้งอ่านหนังสือมากมายและฝึกวาดภาพด้วยตัวเอง ฉันน่ะได้รับความรู้สึกมากมายจากหนังสือการ์ตูน เพราะฉะนั้น ฉันเองก็คิดว่าจะเป็นนักวาดการ์ตูน และมอบความรู้สึกที่หลากหลายให้แก่ผู้อ่านเหมือนกันค่ะ

ฉันตัวเตี้ยและเล็ก บางครั้งคนก็มองไม่เห็นค่ะ ถึงฉันจะตัวเล็กแบบนี้ แต่ก็สามารถออกงานใหญ่ได้นะคะ …ร่างกายของฉันไม่ได้มีเพียงหนึ่ง แต่ถ้าหากมีคนสิบคนได้อ่านหนังสือการ์ตูนของฉัน ภายในหัวใจของคนสิบคนนั้น ก็มีตัวฉันสิบคนกำเนิดขึ้นมาค่ะ

ถ้าหากว่า หนังสือการ์ตูนที่ฉันวาดประทับอยู่ในหัวใจของใครสักคน นั่นเป็นเรื่องที่วิเศษยิ่งกว่าร่างกายที่ไม่มีวันตายด้วยยาวิเศษหรือพลังเวทมนต์อีกไม่ใช่เหรอคะ

ร่างกายของฉันถึงแม้จะมีเวลาจำกัด… แต่ก็อยากเป็นคนที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเปล่งประกายอยู่ในหัวใจของใครสักคนค่ะ

Bottom as

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here